พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
พระสมเด็จปิลีนท...
พระสมเด็จปิลีนท์ พิมพ์ปรกโพธิ์ ซุ้มเหลี่ยม (มีใบเซอร์สมาคมพระฯ)
ระสมเด็จปิลันทน์ วัดระฆัง สันนิษฐานว่ามีการสร้างขึ้นไว้เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๑๘ โดยผู้สร้างคือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (หม่อมเจ้าทัด เสนีวงศ์) ท่านเป็นพระโอรสในกรมหลวงเสนีบริรักษ์ (พระองค์เจ้าแดง) ในกรมพระราชวังบวรสถานภิมุข (วังหลัง) ประสูติเมื่อ พ.ศ.๒๓๖๔ สมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒
หม่อมเจ้าทัด ทรงออกผนวช ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๓ ประมาณ พ.ศ.๒๓๘๕ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นนาคหลวง โดยมีสมเด็จพระสังฆราชด่อน เป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรฺหมฺรังสี) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในครั้งสมัยนั้นยังเรียกกันว่า พระมหาโต เปรียญหก หลังจากผนวชแล้วได้มาประทับอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม ทรงศึกษาด้านพระธรรมวินัย สมถกรรมฐาน และวิปัสสนาธุระกับพระอาจารย์มหาโตแต่ผู้เดียว จนสอบไล่ได้เป็นเปรียญ ๗ ประโยค ใน พ.ศ.๒๔๐๔
ต่อมา เมื่อเจริญด้วยพระชนมายุ จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “พระพุทธบาทปิลันทน์” ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ราวปี พ.ศ.๒๔๐๗ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (หม่อมเจ้าทัด เสนีวงศ์) มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ รวมสิริอายุได้ ๗๙ ปี ๕๘ พรรษา ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ราวปี พ.ศ.๒๔๐๗
การเรียกชื่อพระปิลันทน์นำหน้าชื่อพระว่า สมเด็จ ก็เพราะว่าผู้สร้างมียศศักดิ์สูงถึงชั้นสมเด็จ และคำว่า "ปิลันทน์" ก็หมายถึง ชื่อเดิมของท่านที่ชื่อว่า “พระพุทธบาทปิลันทน์” ครั้งเมื่อท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้นมาทำให้ชาวบ้านทั่วไปเรียกและขนานนามพระที่ท่านสร้างนั้นว่า พระสมเด็จปิลันทน์ ตามชื่อเดิมท่าน และเรียกกันเรื่อยๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งที่จริงแล้วพระพุทธบาทปิลันทน์นั้นท่านก็เป็นศิษย์เอกองค์หนึ่งของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เช่นกัน
พระสมเด็จปิลันทน์มีการสร้างไว้มากมายหลายพิมพ์ทรง สีของเนื้อพระจะออกสีเขียวอมดำ อมเทา หรือเนื้อผง สีออกขาวเหลืองก็มี มีทั้งที่บรรจุกรุ และไม่ลงกรุ องค์พระที่ลงกรุส่วนใหญ่จะมีคราบไขปกคลุมอยู่ทั่วองค์พระ จับอยู่เป็นชั้นๆ บางจุดก็มีไขเกาะหนาเป็นก้อนนูนเด่น ลักษณะแข็ง มัน เหนียวเหนอะ คล้ายกับไขวัว ดูแล้วมีเสน่ห์เข้มแข็งน่าใช้
ส่วนพระสมเด็จปิลันทน์เนื้อผงสีขาวนั้น มาแตกกรุขึ้นภายหลังที่กรุเจดีย์ในวัดระฆังเช่นกันเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ และพบอีกหลายๆ ครั้งต่อมาทั้งที่วัดระฆังเอง และที่กรุวัดอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงกับวัดระฆัง ซึ่งสมเด็จปิลันทน์เนื้อขาวนั้นจะพบคราบไขเกาะองค์พระน้อยกว่ามากกับพระสมเด็จปิลันทน์ที่เป็นสีอื่นๆ
ผู้เข้าชม
3996 ครั้ง
ราคา
-
สถานะ
โชว์พระ
โดย
makara995
ชื่อร้าน
มะกะระ พระกรุ
ร้านค้า
makara.99wat.com
โทรศัพท์
0813116011
ไอดีไลน์
0818306399
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
244-0-006xx-x
พระกำแพงซุ้มยอ เนื้อดิน
พระใบขนุน กรุวัดราษฎ์บูรณะ อยุ
พระคง จังหวัดลำพูน
พระกรุวัดลิงขบ
พระร่วงเปิดโลก กรุเตาทุเรียง ส
พระเจ้าสิบชาติ ปางมารวิชัยพิมพ
พระพุทธกวัก กรุหนองลังกา ทุ่งเ
พระลีลาหลังเข็ม กรุชุมนุมสงฆ์
พระกำแพงหน้าอิฐ
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
BAINGERN
hopperman
ยิ้มสยาม573
เสือรากไทร
sorasak
ปาล์ม บารมีเครื่องราง
พีพีพระเครื่อง
โกหมู
เทพจิระ
ep8600
Muthita
เปียโน
someman
นรินทร์ ทัพไทย
นานา
เนินพระ99
หริด์ เก้าแสน
jocho
termboon
ส่องพระเครื่อง789
เจริญสุข
mon37
Erawan
0949163342
ภูมิ IR
ponsrithong2
ponsrithong
aithanya
ผดุงศักดิ์
ยอด วัดโพธิ์
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1484 คน
เพิ่มข้อมูล
พระสมเด็จปิลีนท์ พิมพ์ปรกโพธิ์ ซุ้มเหลี่ยม (มีใบเซอร์สมาคมพระฯ)
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
พระสมเด็จปิลีนท์ พิมพ์ปรกโพธิ์ ซุ้มเหลี่ยม (มีใบเซอร์สมาคมพระฯ)
รายละเอียด
ระสมเด็จปิลันทน์ วัดระฆัง สันนิษฐานว่ามีการสร้างขึ้นไว้เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๑๘ โดยผู้สร้างคือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (หม่อมเจ้าทัด เสนีวงศ์) ท่านเป็นพระโอรสในกรมหลวงเสนีบริรักษ์ (พระองค์เจ้าแดง) ในกรมพระราชวังบวรสถานภิมุข (วังหลัง) ประสูติเมื่อ พ.ศ.๒๓๖๔ สมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒
หม่อมเจ้าทัด ทรงออกผนวช ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๓ ประมาณ พ.ศ.๒๓๘๕ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นนาคหลวง โดยมีสมเด็จพระสังฆราชด่อน เป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรฺหมฺรังสี) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในครั้งสมัยนั้นยังเรียกกันว่า พระมหาโต เปรียญหก หลังจากผนวชแล้วได้มาประทับอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม ทรงศึกษาด้านพระธรรมวินัย สมถกรรมฐาน และวิปัสสนาธุระกับพระอาจารย์มหาโตแต่ผู้เดียว จนสอบไล่ได้เป็นเปรียญ ๗ ประโยค ใน พ.ศ.๒๔๐๔
ต่อมา เมื่อเจริญด้วยพระชนมายุ จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ “พระพุทธบาทปิลันทน์” ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ราวปี พ.ศ.๒๔๐๗ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (หม่อมเจ้าทัด เสนีวงศ์) มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๓ รวมสิริอายุได้ ๗๙ ปี ๕๘ พรรษา ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ราวปี พ.ศ.๒๔๐๗
การเรียกชื่อพระปิลันทน์นำหน้าชื่อพระว่า สมเด็จ ก็เพราะว่าผู้สร้างมียศศักดิ์สูงถึงชั้นสมเด็จ และคำว่า "ปิลันทน์" ก็หมายถึง ชื่อเดิมของท่านที่ชื่อว่า “พระพุทธบาทปิลันทน์” ครั้งเมื่อท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้นมาทำให้ชาวบ้านทั่วไปเรียกและขนานนามพระที่ท่านสร้างนั้นว่า พระสมเด็จปิลันทน์ ตามชื่อเดิมท่าน และเรียกกันเรื่อยๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งที่จริงแล้วพระพุทธบาทปิลันทน์นั้นท่านก็เป็นศิษย์เอกองค์หนึ่งของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เช่นกัน
พระสมเด็จปิลันทน์มีการสร้างไว้มากมายหลายพิมพ์ทรง สีของเนื้อพระจะออกสีเขียวอมดำ อมเทา หรือเนื้อผง สีออกขาวเหลืองก็มี มีทั้งที่บรรจุกรุ และไม่ลงกรุ องค์พระที่ลงกรุส่วนใหญ่จะมีคราบไขปกคลุมอยู่ทั่วองค์พระ จับอยู่เป็นชั้นๆ บางจุดก็มีไขเกาะหนาเป็นก้อนนูนเด่น ลักษณะแข็ง มัน เหนียวเหนอะ คล้ายกับไขวัว ดูแล้วมีเสน่ห์เข้มแข็งน่าใช้
ส่วนพระสมเด็จปิลันทน์เนื้อผงสีขาวนั้น มาแตกกรุขึ้นภายหลังที่กรุเจดีย์ในวัดระฆังเช่นกันเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ และพบอีกหลายๆ ครั้งต่อมาทั้งที่วัดระฆังเอง และที่กรุวัดอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงกับวัดระฆัง ซึ่งสมเด็จปิลันทน์เนื้อขาวนั้นจะพบคราบไขเกาะองค์พระน้อยกว่ามากกับพระสมเด็จปิลันทน์ที่เป็นสีอื่นๆ
ราคาปัจจุบัน
-
จำนวนผู้เข้าชม
4060 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
makara995
ชื่อร้าน
มะกะระ พระกรุ
URL
http://www.makara.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0813116011
ID LINE
0818306399
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 244-0-006xx-x
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี